โควิดกับวิกฤติวงการคาสิโน
แหล่งที่มา: Ameer Basheer on Unsplash
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ “โควิด-19” ได้สร้างผลกระทบกับธุรกิจต่างๆ อย่างมหาศาล เพราะการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและสามารถส่งผลอย่างรุนแรงแก่ประชากรบางกลุ่ม อีกทั้งตลอดเวลาดังกล่าวนั้นหนทางป้องกันก็ยังมาไม่ถึง รัฐบาลทั่วโลกจึงเหลือทางเดียวในการป้องกันไปก่อน คือใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” เพื่อให้ทุกสถานที่ที่ถือว่าสุ่มเสี่ยงเนื่องจากมีการรวมตัวกันของคนจำนวนมากอย่างใกล้ชิดงดให้บริการไปเป็นการชั่วคราวก่อน
ท่ามกลางร้านรวง ห้างสรรพสินค้า และสถานบริการต่างๆ ที่คนไทยต้องเผชิญกับการถูกสั่งปิดเพื่อหนีโควิด ก็ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่เมื่อมองไปในหลายประเทศทั่วโลกแล้วก็ต้องงดให้บริการจนแทบปิดกิจการ ซึ่งก็คือคาสิโนต่างๆ นั่นเอง
จากการหาข้อมูลต่างๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว คาสิโนออนไลน์ JackpotCity พบว่า แม้หลายๆ ธุรกิจในโลกนี้จะเป็นธุรกิจที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาลเพียงใด แต่พอต้องงดให้บริการเป็นเวลานาน ก็ยากจะต้านผลกระทบจากแรงกดทับของต้นทุน จนหลายธุรกิจต่างต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง เรื่องนี้เป็นจริงไม่เว้นแม่แต่กับยักษ์ใหญ่ในวงการคาสิโนอย่าง MGM Resorts International แห่งลาสเวกัส ที่ต้องตัดสินใจปลดพนักงานจำนวนถึง 18,000 คนเพื่อดำรงธุรกิจเอาไว้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ทั้งที่เป็นช่วงเวลาที่พอจะกลับมาให้บริการได้อยู่บ้าง แม้จะไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตามที
ทายผลกีฬาโดนเต็มๆ
กิจกรรมหนึ่งที่ต้องงดเป็นการชั่วคราวภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆ ก็คือกีฬาสารพัดชนิด เพราะการชมกีฬาจะพาคนจำนวนมากมารวมตัวกันอย่างใกล้ชิด ตะโกนส่งเสียงเชียร์ (บ้างก็แช่ง) และแน่นอนคือมาพร้อมลมหายใจรุนแรง ซึ่งเหล่านี้นั้นล้วนเป็นเส้นทางลำเลียงอย่างดีให้การแพร่กระจายของโควิด-19 ดังที่ประเทศไทยเองก็เคยมี “คลัสเตอร์สนามมวย” อันเป็นสาเหตุของการระบาดรุนแรงระลอกแรกภายในประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2563
การทายผลกีฬาในหลากหลายประเภททั้งด้วยช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เป็นกิจกรรมที่คนให้ความนิยมกันมาก และแน่นอน ในเมื่อไม่มีกีฬาแล้ว ประเทศต่างๆ ที่มีธุรกิจเปิดให้คนทายผลกีฬาได้ก็ย่อมได้รับผลกระทบอย่างหนัก อิตาลีเป็นตัวอย่างหนึ่งในกรณีนี้ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ธุรกิจที่เปิดให้คนทายผลกีฬาในอิตาลีมีรายได้สูงถึง 106.4 ล้านยูโร (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือเกือบ 4,100 ล้านบาท) แต่พอถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ระยะเวลาเพียง 3 เดือนที่โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลกได้กดให้รายได้ในธุรกิจนี้ลดลงมาเหลือเพียง 70.7 ล้านยูโร (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 2,700 ล้านบาท) เรียกว่ารายได้ในธุรกิจนี้หายไปมากกว่า 35 ล้านยูโร หรือคิดเป็นประมาณ 1,300 ล้านบาทด้วยค่าเงินในปัจจุบัน
ลาสเวกัสก็สาหัสไม่ใช่น้อย
แหล่งที่มา: Adrian Trinkaus on Unsplash
หากพูดถึงธุรกิจคาสิโน ประเทศหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงไม่ใช่ที่ไหนนอกจากสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ตั้งของดินแดนอันเป็นสวรรค์ของเหล่านักทัศนศึกษาคาสิโนอย่างลาสเวกัส
ใน พ.ศ. 2563 MGM Resorts International ยักษ์ใหญ่คาสิโนแห่งลาสเวกัสที่กล่าวถึงไปข้างต้น รายงานผลประกอบการไตรมาสสองว่ารายได้หดหายไปถึง 1 พันล้านดอลลาร์ (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 3,100 ล้านบาท)
นอกจากนี้ เจ้าของที่พัก 10 แห่งใน The Strip ถนนหลวงความยาว 6 กิโลเมตรของลาสเวกัสซึ่งเต็มไปด้วยคาสิโนและโรงแรมที่พักต่างๆ ยังรายงานรายได้ในไตรมาสเดียวกันของปีดังกล่าวว่าอยู่ที่ 290 ล้านดอลลาร์ (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 9,100 ล้านบาท) ฟังดูเหมือนเยอะ แต่แท้จริงแล้วนี่คือรายได้ที่ลดลงมาถึง 91% จากเวลาปกติ!
มาเก๊าก็ไม่เบา
หากพูดถึงสวรรค์ของนักทายผลทั้งหลาย อีกประเทศหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เช่นกันก็คือมาเก๊า การแพร่ระบาดของโคด-19 ทำไห้มาเก๊าเป็นอีกที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากคาสิโนต่างๆ ต้องงดให้บริการชั่วคราว โดยในช่วงครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2563 บริษัทเอกชน 6 แห่งที่ให้บริการคาสิโนบนเกาะมาเก๊าต้องเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนัก ดังนี้
1. Melco Resorts and Entertainment ขาดทุนสุทธิ 520.7 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 2,100 ล้านบาท)
2. SJM Holdings ขาดทุนสุทธิ 1,410 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 5,700 ล้านบาท)
3. Galaxy Entertainment Group ขาดทุนสุทธิ 2,800 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 11,000 ล้านบาท)
4. MGM China Holdings ขาดทุนสุทธิ 2,800 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 11,000 ล้านบาท)
5. Wynn Macau ขาดทุนสุทธิ 3,900 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 15,000 ล้านบาท)
6. Sands China ขาดทุนสุทธิ 5,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (เทียบกับค่าเงินปัจจุบันคือประมาณ 22,000 ล้านบาท)
การขาดทุนดังกล่าวเกิดจากอัตรารายได้ที่ลดลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของช่วงเวลาปกติ ซึ่งทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเพราะการปิดคาสิโนชั่วคราวเป็นเวลา 15 วันในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 และแม้หลังจากนั้นคาสิโนจะกลับมาให้บริการ แต่ทางมาเก๊าก็มีการปิดเกาะไม่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงทำให้รายได้ในธุรกิจคาสิโนบนเกาะในช่วงครึ่งปีแรกของช่วงเวลาดังกล่าวลดลงอย่างที่เห็น
วัคซีนปลุกยักษ์ คาสิโนทั้งหลายเริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้งแล้ว
ปัจจุบัน หลังจากผ่านวิกฤติโควิด-19 กันมาเกินหนึ่งปี บัดนี้วัคซีนป้องกันเจ้าโรคร้ายตัวนี้ที่มีประสิทธิตั้งแต่บรรเทาความรุนแรงไปจนถึงป้องกันการแพร่ระบาดได้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว และในหลายๆ ประเทศก็กำลังเร่งฉีดวัคซีนเหล่านี้ให้กับประชาชนของตน และผลก็คือ หลายๆ ธุรกิจที่เคยต้องปิดบริการชั่วคราวไปในช่วงของการแพร่ระบาดที่ไร้หนทางป้องกันอันยั่งยืน ก็เริ่มฟื้นเพราะสามารถกลับมาเปิดบริการกันได้อีกครั้ง
คาสิโนต่างๆ เป็นหนึ่งในนั้น สหรัฐอเมริกาที่เมื่อปีที่แล้ว (รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์) ยังมีผู้ติดเชื้อต่อวันเป็นจำนวนมาก มาในปีนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สามารถทำตามสัญญาคือฉีดวัคซีน 200 ล้านโดสภายใน 100 วัน หรือก็คือตอนนี้สหรัฐอเมริกามีประชาชนได้รับวัคซีนครบโดสไป 100 ล้านคนแล้ว และนั่นทำให้คาสิโนหลายแห่งสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อย่างเต็มที่ โดยที่บางที่นั้นไม่เพียงเอาฉากพลาสติกที่เคยกางกั้นลง แต่ถึงขั้นไม่ต้องให้พนักงานที่ได้รับวัคซีนครบโดสใส่แมสกันเลยทีเดียว
และขณะนี้ หลังจากที่คาสิโนหลายแห่งในลาสเวกัสเริ่มกลับมาเปิดให้บริการในระดับที่แทบไม่ต้องมีมาตรการเพื่อการป้องกันโควิด-19 อีกต่อไปแล้ว ล่าสุด คณะกรรมการควบคุมการพนัน หรือ Gaming Control Board ของรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้อนุญาตให้คาสิโนต่างๆ เปิดบริการเต็มพิกัดได้แล้วหากมีพนักงานในองค์กรจำนวน 80% ขึ้นไปได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยแนวโน้มเช่นนี้ อย่าว่าแต่สหรัฐอเมริกา บางทีไม่เกินสิ้นปีนี้ เราก็คงได้เห็นคาสิโนต่างๆ ทั่วโลกทยอยกันกลับมาให้บริการอย่างเต็มพิกัดกันอีกครั้งแล้ว!
และในระหว่างที่คาสิโนทั่วโลกเริ่มกลับมาเปิดให้บริการตามปริมาณการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้ คาสิโนออนไลน์ JackpotCity Casino ขอพาทุกคนไปอุ่นเครื่องกับ 10 การเดิมพันสุดเพี้ยนที่ "แบบนี้ก็มีในโลกด้วย?" ที่จะทำให้เห็นว่า จิตใจที่ชอบการเดิมพันของคนเรานั้นสามารถสร้างสรรค์การเดิมพันได้ “เพี้ยน” ขนาดไหน